ถ้าหากคุณไม่เคยแข่งขันการยิงธนูในร่ม (Indoor) มาก่อน คุณก็ควรต้องหาโอกาสลองสักครั้ง การแข่งประเภทนี้สนุก และมีโอกาสได้พบปะเพื่อนนักธนูด้วยกัน
การแข่งขันยิงธนูในร่มในบ้านเรา ส่วนใหญ่จะยิงธนู – ประมาณ 30 ลูก ไปที่เป้าระยะ 18 เมตร ผู้ยิงทุกคนจะยิง 3 ลูกในแต่ละเซ็ท แล้วเดินออกไปจดแต้ม เก็บคะแนน ถอนลูกเก็บกลับมา
ในการแข่งขันทุกครั้งเราต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ธนูที่จะใช้ ถ้าหากไม่มีปัญหาเรื่องทุนทรัพย์และสามารถจัดหาธนูชุดหนึ่งไว้สำหรับยิง Outdoor และมีอีกชุดเหมาะไว้ยิง Indoor แยกกัน จะดีที่สุด
แล้วมันจะแตกต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วไปนักธนูจะใช้ลูกที่มีขนาดใหญ่ไว้ยิงในร่ม (Indoor) และลูกเล็กไว้ยิงกลางแจ้ง (Outdoor) เจ้าลูกอ้วน ถูกออกแบบสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ตัดกินเส้นวงคะแนนสูง ในขณะที่ลูกเล็ก ถูกออกแบบมาเพื่อใช้พุ่งแหวกอากาศตัดลมกลางแจ้ง
แต่ถ้าคุณสังเกตดีๆ ลูกธนูในกลุ่มนักกีฬายิงธนูประเภท Compound หรือที่เราเรียก ‘รอกทดกำลัง’ หลายคนใช้ ‘ลูกอ้วน’ อ้วนกว่าลูกธนูที่เคยเห็นกันทั่วๆ ไป เรามีเหตุผลมาอธิบาย
เจ้า ‘ลูกอ้วน’ ที่เราเรียก ก็คือ ลูกธนูที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งบ่อยครั้งอาจถูกเรียกว่า “ตัวตัดเส้น” เพราะมันจะตัดกินเส้นมากกว่าลูกผอม จะเจาะเข้ากระดาษ กินเนื้อเป้ามากกว่าลูกธนูทั่วไป นั่นหมายความว่า ลูกธนูลูกนั้นมีโอกาสตัดเส้นแต้มสูงได้มากกว่าลูกธนูขนาดเรียวเล็ก และในการแข่งยิงธนู คุณจะต้องพยายามยิงให้ลูกธนูแตะเส้นวงแต้มสูงเพื่อที่จะให้ได้คะแนนที่สูงขึ้น
ลองสังเกตดูในรูป จุดศูนย์กลางหรือปลายหัวลูกของลูกธนูทั้งสองชนิดจะเข้าอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากจุดศูนย์กลาง X เท่าๆกัน แต่ด้วยลูกซ้าย ลูกที่อ้วนกว่าจะตัดเส้นกินคะแนนในวงใกล้เข้าตำแหน่ง X มากกว่าลูกขวาที่เป็นลูกเล็ก
รูปนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างของขนาด เปรียบเทียบระหว่างลูกธนูลูกบน ที่ใช้ในการล่าสัตว์ทั่วไป/ธนูที่ใช้ยิงเพื่อสันทนาการ กับลูกอ้วนด้านล่าง ที่ใช้ยิงในร่ม จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
เพื่อให้เป็นที่แน่ใจ ควรเช็คกฎกติกาของการแข่งยิงธนูในร่มที่เข้าแข่งทุกครั้ง เพราะในการแข่งขันแต่ละสนามจะระบุ จำกัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกธนูที่อนุญาตให้ใช้แข่ง แต่ละสนามแข่ง แต่ละสมาคมฯ ค่อนข้างแตกต่างกันมาก
ยกตัวอย่าง กฎกติกาของ World Archery จำกัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกธนูอนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 9.3 mm (23/64”), ในขณะที่ National Field Archery Association (NFAA) อนุญาตให้ใช้ได้ถึงขนาด 10.7 mm (27/64”)
ในการแข่งขันกลางแจ้ง คุณต้องห่วงเรื่องดินฟ้าอากาศ เป็นตัวแปร ซึ่งไม่สามารถกำหนดหรือบังคับได้ กับระยะที่ต้องยิงถึง 90 เมตร
ในการแข่งขันในร่มคุณไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางกระแสลมหรือฝน และระยะยิงก็เพียง 18 เมตร น้ำหนักหัวที่หนักของลูกธนูด้านหน้า มีข้อดีตรงที่ให้ความแม่นยำ เที่ยงตรง
และถึงแม้ว่าหัวลูกจะค่อนข้างหนัก แต่ตรงปลายมักจะแหลม นั่นจะช่วยให้ลูกธนูเจาะเข้าในตำแหน่งรูเดิมบนเป้า ซึ่งก็คาดหวังว่าคงจะเป็นจุด x กลางวง 10
นักธนูที่ใช้ลูกอ้วน มักจะติดปีกขนนกขนาด 4”- 5” เพื่อให้ลูกหมุนตั้งตัวได้เร็วอย่างมีประสิทธิภาพ ติดในแบบทิศทางที่เอียงเป็นเกลียว เป็นการติดในแบบที่เรียกว่า Helical ในขณะที่ลูกธนูถูกยิงแหวกอากาศออกไป ปีกจะช่วยให้ลูกหมุนควง ซึ่งจะเพิ่มความเสถียรระหว่างที่ลูกพุ่งอยู่ในอากาศ ลูกธนูที่พุ่งไปได้อย่างเสถียรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการยิงธนูแข่งขันในร่ม
มี Nock หลายชนิดถูกผลิตมาเพื่อให้ใช้กับลูกอ้วนได้พอดีๆ แต่ก็มีนักธนูหลายคนชอบเลือกที่จะใช้ Bushing เสียบสวมเข้าไปด้านท้ายลูกเพื่อที่จะสามารถใส่ Nock ที่มีขนาดเล็กได้ ด้วยความที่เชื่อว่า Nock ที่มีขนาดเล็ก จะทำให้มีความแม่นยำดีกว่า และตัว Bushing ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับด้านท้ายของลูกธนูในกรณีที่ลูกถูกยิงกระทบกัน
คันธนูประเภท Recurve ไม่จำเป็นจะต้องใช้ลูกอ้วนเหมือนนักธนู Compound อาจเป็นเพราะการยิงธนูที่ปล่อยสายยิงด้วยนิ้วอาจไม่สามารถใช้ลูกอ้วน (ซึ่งมีความแข็งของลูกที่มากขึ้น) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับคัน Compound ที่ยิงลูกอ้วนด้วยน้ำหนักน้าวสายที่หนักกว่า
ลูกธนูอลูมิเนียม 2312 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.1 mm เป็นที่นิยมมาใช้ยิงแข่งขันในร่มกับคันธนูประเภท Recurve
การยิงกลางแจ้ง นักธนูส่วนใหญ่มักเลือกใช้ลูกที่มีขนาดเล็ก ติดปีกสั้น แบบ Low-profile หรือแบบ Shield cut
ตามรูปข้างล่างนี้ เพื่อเน้นการลู่ลม ฝ่าฝน แหวกอากาศไปได้ระยะไกล
แต่มีข้อยกเว้นในการยิง 3-D !!!
คุณอาจได้เห็นผู้ยิงธนู Compound ยิงลูกอ้วนเพื่อตัดเส้นวงคะแนนในการแข่งเป้า 3-D เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะกลับเลือกติดปีกแบบสั้น Low-profile และหัว Points ไม่หนักนัก เพื่อคงให้ลูกมีน้ำหนักเบาและเร็ว อีกทั้งนักธนู 3-D ส่วนใหญ่ยิงระยะไกลไม่เกิน 50 เมตร
นักธนู Recurve มักเลือกยิงลูกขนาดเล็ก ในการแข่งกลางแจ้ง พวกเขามักจะติดปีกเบาๆ แบบ Curled-style ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเร่งอัตราหมุน ซึ่งจะทำให้ลูกตั้งตัวดีในการยิงฝ่าลม
เรียบเรียงจากบทความของ P.J.Reilly